International Data Corporation (IDC) บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลกประกาศให้ Salesforce เป็นผู้ให้บริการด้าน CRM อันดับ 1 เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันจากผลการสำรวจ Worldwide Semi-Annual Software Tracker ของ IDC อีกทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรมใน Magic Quadrant ของ Gartner เป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน นอกจากนี้ในปี 2017 Salesforce ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมอันดับ 1 โดย Forbes, Tesla และ Autodesk อีกด้วย

ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลดังเช่นในปัจจุบันได้ส่งผลให้การตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้นและเต็มไปด้วยคู่แข่งที่แข็งแกร่ง พร้อมจะขับเคี่ยวด้วยกลยุทธ์การลดราคาแข่งขัน และลูกค้าก็ได้กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของทุกธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะกำลังทำธุรกิจประเภทใด มีองค์กรขนาดใหญ่แค่ไหน หรือมีผลิตภัณฑ์ที่ดีเพียงใด แต่หากคุณไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ก็เท่ากับว่าคุณกำลังสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาล ดังนั้น การจัดการข้อมูลเพื่อการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

การมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการมีระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์อย่าง Salesforce ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับระบบการจัดการลูกค้าในตลาด SaaS (Software as a Service) หรือการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือระบบคลาวด์ (Cloud) เห็นได้ชัดว่า Salesforce ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการที่มุ่งเน้นด้าน CRM เพียงอย่างเดียวเหมือนผู้ให้บริการรายอื่น ๆ แต่ Salesforce ยังเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้า และนี่คือ 5 เหตุผลที่คุณควรเลือก Salesforce สำหรับธุรกิจของคุณ

 

5 เหตุผลที่ธุรกิจของคุณควรใช้ Salesforce

  1. การจัดระเบียบข้อมูลขั้นสูงและการเห็นภาพของลูกค้า

ในโลกธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง การรู้จักองค์ประกอบและจุดแข็งขององค์กรของคุณเองเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อองค์กรมีข้อมูลของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ความท้าทายในการจัดระเบียบและโครงสร้างก็จะยิ่งทวีคูณมากขึ้น การรวบรวมรายชื่อว่าที่ลูกค้า (Lead) หรือกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในแบรนด์ สินค้า และบริการอาจเป็นสิ่งที่หลาย ๆ องค์กรให้ความสำคัญ ทว่าการจัดทำเอกสาร การบันทึกรวบรวม และการจัดระเบียบข้อมูลอย่างเหมาะสมก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน การอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Salesforce จะช่วยให้การจัดการทั้งหมดนี้เป็นเรื่องง่าย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ แพลตฟอร์ม Salesforce จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บ แบ่งประเภท และแสดงปริมาณข้อมูลสำหรับการอ้างอิงในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนสามารถแบ่งปันข้อมูลกับแผนกต่าง ๆ ภายในองค์กรได้ ข้อได้เปรียบที่สุดของ Salesforce คือ การใช้แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ทีมของคุณสามารถเรียกดูบัญชี ข้อมูลติดต่อ ภารกิจงาน เหตุการณ์ และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าเพื่อให้เห็นภาพรวมของผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าเพื่อให้สามารถนำเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นส่วนตัวที่สุดได้

  1. ทางเลือกใหม่ในการบูรณาการฟังก์ชันการทำงาน

แม้ว่าแพลตฟอร์ม CRM ระดับโลกนี้จะนำเสนอฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์อยู่แล้ว แต่คุณก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับองค์กรและตามความต้องการของธุรกิจของคุณได้ ด้วยการสนับสนุนของ API แบบเปิดที่มีประสิทธิภาพ Salesforce จะช่วยให้คุณสามารถผสานรวมฟีเจอร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการผสานรวมกับแอปพลิเคชันและบริการของบุคคลที่สามเพื่อสร้างพื้นที่ข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การบูรณาการแพลตฟอร์มเข้ากับ LinkedIn ที่จะช่วยให้ทีมขายของคุณสามารถค้นหาข้อมูลของผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า รวมถึงตำแหน่งงาน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ความสนใจ ฯลฯ และยังสามารถใช้ฟีเจอร์การบูรณาการเพื่อสร้างฐานข้อมูลที่จะจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าสำหรับใช้ร่วมกันภายในองค์กรได้อีกด้วย

  1. การบริหารจัดการเวลา

เวลาเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ คุณสามารถประหยัดเวลาให้กับทีมของคุณได้อย่างมากโดยการใช้ระบบอัตโนมัติแทนการป้อนข้อมูลหรือดำเนินการด้วยตนเอง อาทิ

  • การอัปเดตสเปรดชีต
  • การส่งแฟกซ์และลงนามในเอกสาร
  • ระบุสถานะของลูกค้าเป้าหมาย
  • การบันทึกอีเมล
  • แสดงความยินดีกับลูกค้าของคุณในเหตุการณ์สำคัญ
  • การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งภายในและภายนอก
  1. AppExchange ตลาดแอพลิเคชันระดับองค์กรชั้นนำของโลก

ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มที่ปรับแต่งได้สูง Salesforce จึงสร้างจุดเริ่มต้นใหม่ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า AppExchange เป็นตลาดออนไลน์ที่นำเสนอแอปพลิเคชัน ส่วนขยาย และบริการที่ได้รับการพัฒนาโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์บุคคลที่สามและผ่านการรับรองมากกว่า 3,400 รายการสำหรับการใช้งานบน Salesforce โดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบบเสียเงินและฟรี เช่น Xero, SmartCloud, DocuSign, Record Hunter, Einstein Analytics และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีลักษณะการใช้งานเช่นเดียวกับ Google Play หรือ App Store ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ซื้อแอปฯ โดยพิจารณาบทวิจารณ์และการให้คะแนนของผู้ใช้

  1. การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น

หากบริษัทของคุณให้ความสำคัญกับมาตรฐานการให้บริการลูกค้าระดับโลก Salesforce คือสิ่งที่คุณควรลงทุน ไม่ว่าคุณจะมีธุรกิจประเภท B2C หรือ B2B องค์กรของคุณก็คงได้รับคำถามหรือข้อร้องเรียนของลูกค้ามากมายเป็นประจำทุกวันอย่างแน่นอน Salesforce Service Cloud หนึ่งในบริการหลักของ Salesforce จะช่วยปฏิวัติการสนับสนุนลูกค้าด้วยการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างองค์กรและลูกค้า เนื่องจาก  Service Cloud ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ด้านบริการสามารถติดตามและจัดการปัญหาของลูกค้า เช่น คำขอ การขอข้อมูลติดต่อ ข้อร้องเรียน และกรณีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ปัญหาข้อร้องเรียนได้เร็วขึ้น ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการส่งมอบบริการที่ชาญฉลาดขึ้นและเป็นส่วนตัวมากขึ้นนำไปสู่การรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้า อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้มีความแม่นยำ สอดคล้อง และต่อเนื่องยิ่งขึ้น

 

Salesforce CRM เป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายและประสิทธิภาพที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจทุกประเภท CRM บนระบบคลาวด์นี้ได้ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากกว่า 150,000 แห่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ตลอดจนช่วยเพิ่มรายได้และยอดขายขององค์กร เนื่องจาก Salesforce เป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณได้นั่นเอง