การ Integration และ API ถือเป็นรากฐานทางดิจิทัลขององค์กร เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับความต้องการกลยุทธ์สำหรับการบูรณาการ Mulesoft จึงพยายามลดความซับซ้อนสำหรับวิธีที่ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจะสามารถประเมินการบูรณาการกลยุทธ์และการลงทุนที่ได้

เริ่มต้นด้วยคำถามพื้นฐานแรกคือ: "องค์กรมีกลยุทธ์การ Integration หรือไม่?" ถ้าคำตอบคือ “ไม่” สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใจว่าโปรแกรม API จะช่วยให้องค์กรบรรลุการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในยุคสมัยใหม่ได้อย่างไร แต่ถ้าคำตอบคือ “ใช่” กลยุทธ์นี้สามารถประเมินได้ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน ดังนี้

กลยุทธ์ 3 ด้านคืออะไร

เมื่อองค์กรได้กำหนดกลยุทธ์ API แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือความคุ้มค่าที่จะได้รับ ในตอนที่วัดค่านั้น มันเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจที่จะมองผ่านมุม : TCO (The total cost of ownership) และ Productivity

กลยุทธ์ที่ 1: มุมมองต้นทุนรวมของการเป็นเจ้าของ (TCO: The total cost of ownership)

กลยุทธ์การ Integration สามารถทำได้โดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับผลตอบแทนได้รับที่ให้กับธุรกิจหรือไม่?

ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (The total cost of ownership หรือ TCO) คือ มุมมองด้านต้นทุนรวมของการบูรณาการ (TCI) จะถูกคำนวณโดยการบวกในต้นทุนของสินค้า 3 ด้าน ในส่วนงบประมาณเทคโนโลยีขององค์กร :

  • ฮาร์ดแวร์ (virtual, on-premise, hybrid หรือ cloud) ที่สนับสนุนการรวบรวมเทคโนโลยีที่นำมาใช้
  • ซอฟต์แวร์ ที่ใช้ในกลยุทธ์การ integration (แต่ไม่จำกัดเฉพาะการพัฒนาด้าน API, Management,การประสาน, การบริหาร, เกตเวย์ และซอฟต์แวร์ตรวจสอบ)
  • ต้นทุนด้านบุคลากร: แรงงานภายใน ภายนอก และพนักงานชั่วคราวที่จำเป็นในการดำเนินการตามกลยุทธ์การintegration ขององค์กร

กลยุทธ์ที่ 2: มุมมองในการเพิ่มประสิทธิภาพ

กลยุทธ์การ integration และ แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องช่วยให้เกิด productivity ให้มากขึ้นทั่วทั้งองค์กรหรือไม่?

มุมมองในการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานมุ่งเน้นไปที่ integration และ API ของผู้จัดการและผู้ดูแลระบบ API ในการวัดระดับของประสิทธิภาพ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบถึงผลเชิงบวกที่อาจเกิดขึ้นจากการบูรณาการและผู้บริโภค API

โดยท้ายที่สุดแล้ว การวัดประสิทธิภาพจะถูกวัดในระดับหน่วยการ integration:

  • ถึงเวลาพัฒนา integrations หรือ APIs แบบใหม่
  • ถึงเวลาบำรุงรักษาการ integration หรือ APIs
  • ถึงเวลาในการรักษาความปลอดภัยของการ integration หรือ APIs
  • ถึงเวลาทดสอบ QA (UAT, SIT) integration หรือ APIs แบบใหม่
  • ปรับปรุงการจัดการ บำรุงรักษา อัพเกรด และจัดการการ integration environment

กลยุทธ์ที่ 3: มุมของผลลัพธ์ทางธุรกิจ

กลยุทธ์นี้จะส่งผลอะไรบ้างต่อองค์กรในวงกว้าง?

กลยุทธ์ที่ 3 มีแนวโน้มว่าจะลงลึกด้าน strategic value มากกว่า 2 กลยุทธ์ก่อนหน้านี้รวมกัน นั่นคือ มุมของผลลัพธ์ทางธุรกิจ กลยุทธ์นี้เน้นทุกสิ่งทุกอย่าง วิธีที่ง่ายที่สุดในการพิจารณาผลกระทบของกลยุทธ์การบูรณาการที่มีต่อองค์กร คือ การถามถึงสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ หากไม่มีการ integrations หรือ APIs

เนื่องจากองค์กรโดยเฉลี่ยมีการจัดการแอพพลิเคชันกว่า 50 แอพเป็นอย่างน้อย มีการจัดจำหน่ายหลายช่องทาง ในกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย คำถาม คือ จะให้น้ำหนัก attribution ที่มีผลทำให้เกิด Goal Action ไปที่ส่วนไหน? เช่น กลยุทธ์การ integrations ที่ปรับให้เหมาะสมควรมีสัดส่วนเท่าไหร่ถึงทำให้เรียกว่าเป็น "จำนวนมาก"? ในส่วนคำถามเชิงปฏิบัติ คือ “ต้องดีกว่าหรือเร็วกว่าแค่ไหนที่จะทำให้องค์กรสามารถบรรลุผลลัพธ์โดยใช้กลยุทธ์การบูรณาการเทียบกับทางเลือกที่ดีที่สุดลำดับถัดไป”

เพื่อทำให้การวัดค่าง่ายขึ้น องค์กรสามารถประเมินผลกระทบของการบูรณาการ โดยการตรวจสอบว่าแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มีประสิทธิภาพหรือไม่กับการใช้งานนอกขอบเขตของไอที

  • Time-to-market ของรายได้ที่เกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ภายนอก โดยวัดจากการคำนวณดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากการเร่งเวลาในการออกสู่ตลาด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มเวลาเข้าตลาดโดยคูณ X จำนวนเดือนหรือปี
  • การมีส่วนร่วมในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงาน กลุ่มธุรกิจ หรือทีมที่สร้างรายได้ เช่น การกำจัด shadow IT (โซลูชันหรือแอปพลิเคชันใดๆ ที่ถูกใช้งานโดยพนักงานภายในองค์กรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่แจ้งทางฝ่าย IT ก่อให้ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ)
  • มีส่วนร่วมในการลดความเสี่ยงจากความอันตรายหรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

3 วิธีตัวอย่างจากทีม Business Value Services ของ MuleSoft ที่ได้เคยช่วยเหลือลูกค้า

ในการอธิบายรายละเอียดข้างต้น เราได้รวบรวมตัวอย่าง 3 รายการเกี่ยวกับทีม Business Value Services ของ MuleSoft ที่ช่วยลูกค้าประเมินกลยุทธ์การบูรณาการที่เกี่ยวข้องและวัดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับแต่งกลยุทธ์เหล่านี้กับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ต้องการว่าทำได้อย่างไร

1. Pharmaceutical customer ลูกค้ากลุ่มบริษัทยา

เราได้ร่วมมือกับลูกค้ากลุ่มเภสัชกรรมที่ต้องการขับเคลื่อนพลังของคุณค่าข้อมูลให้ดีขึ้นสำหรับทีมการตลาดและการขายเชิงพาณิชย์ โดยเพิ่มความถี่ในการรายงานการขาย ด้วยความเชื่อที่ว่า เมื่อความรู้สึกต่อผลิตภัณฑ์ในตลาดเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว คุณค่าข้อมูลจึงเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับตลาดและรายได้ที่เข้ามา เราร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมด้านผลิตภัณฑ์ การตลาด และเทคโนโลยีเพื่อประเมินโอกาสทางการตลาดที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อปรับปรุงคุณค่าข้อมูลที่ได้ให้กับผู้บริหารฝ่ายขาย

2. กลุ่มลูกค้าการบริการการเงินและธนาคาร

เราได้ร่วมมือกับลูกค้ากลุ่มธนาคารที่ต้องการขับเคลื่อนการเติบโตของสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์อย่างรวดเร็ว และในความร่วมมือกับผู้บริหาร เราได้วัดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับปรุงการบูรณาการที่เข้าสู่ตลาด

ภายในแผนกสินเชื่อ ตัวชี้วัดหลักสำหรับลูกค้าคือความสามารถในการทำงานของผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์อัตราส่วนลูกค้าสัมพันธ์ต่อการรับประกันการจัดจำหน่าย ปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)

จากการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมต่าง ๆ ไม่ว่าจะจากทีมธุรกิจและเทคโนโลยี ลูกค้ายืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบสินเชื่อ การรับประกันภัย และการเริ่มต้นใช้งานที่ต้องใช้กระดาษจำนวนมากทำให้เกิดความไม่มีประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง ผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 25% ของเวลาของผู้จัดการความสัมพันธ์ทั่วไป

ระบบอัตโนมัติที่เปิดใช้งาน API ในการประมวลผลสินเชื่อและการปฐมนิเทศ เราประเมินผลกระทบที่เพิ่มประสิทธิภาพได้ 1% ในปีที่ 1 ด้วยกลยุทธ์ API ที่ตั้งใจไว้ได้ประสิทธิภาพ 2% ในปีที่ 2 เข้าไปสู่สถานะคงที่ที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 3% ในปีที่3 จากการดูตัวเลขปัจจุบันเป็นพื้นฐานในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้แปลได้ว่าเป็นปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 112 ราย ซึ่งนั่นคือ 78 ล้านดอลลาร์ในสินเชื่อคงค้างและกำไร NIM 2.7 ล้านดอลลาร์ตามต้นทุนของเงินทุนของธนาคาร

แม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้อาจดูไม่น่าสนใจ แต่การคาดการณ์ได้สันนิษฐานไว้ว่าบริษัทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้ผลิตได้ 3% ในช่วง 3 ปีหรือน้อยกว่า 1/8 ของศักยภาพขององค์กร

3. บริษัท สำนักพิมพ์ดิจิทัล SaaS ระยะเริ่มต้น

เราได้ร่วมงานกับบริษัทสื่อทางดิจิทัล SaaS ในช่วงเริ่มต้นตอนที่ต้องการขับเคลื่อนขนาดและการเติบโตของแพลตฟอร์มในตลาดอเมริกาเหนือ ด้วยความร่วมมือกับผู้บริหารผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีหลัก เราวัดผลกระทบที่เผชิญต่อตลาด ซึ่งการบูรณาการที่ปรับปรุงแล้วอาจส่งผลในการขับเคลื่อนผลลัพธ์หลายประการที่สำคัญ ได้แก่ ความเร็วและการพัฒนาขีดความสามารถ

ยิ่งทีมผลิตภัณฑ์เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่าใด บริษัทก็จะสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น ดึงดูดลูกค้าใหม่ และมีรายได้จากโซลูชัน SaaS ของตนได้เร็วเท่านั้น

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ MuleSoft เพิ่มเติมได้ที่ https://www.beryl8.com/th/contact-us