พามาดูนวัตกรรมใหม่ของช่วงต้นปี 2023 ที่จะทำให้คุณนำไปเสริมความแข็งแกร่งการลงทุนให้กับ Saleforce ของคุณ

Innovation คือ สิ่งสำคัญสูงสุดของ Salesforce โดยเป็นหนึ่งใน core values หลักของบริษัท จึงเป็นสิ่งที่จะสะท้อนออกมาในทุก ๆ อย่างที่ Salesforce ทำ

ตลอดที่ผ่านมา Salesforce ได้ปล่อย นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมามากกว่า 100 รายการ ซึ่งส่วนมากจะพัฒนามาจากไอเดียและฟีดแบคของลูกค้าโดยตรงผ่านทาง IdeaExcange ซึ่ง Salesforce รู้ดีว่าไม่มีเวลาไหนจะเหมาะสมกับการฟังความเห็นของลูกค้ามากไปกว่า ตอนนี้ อีกแล้ว

ลูกค้าบอกว่าการตักตวงประโยชน์จากการลงทุนใน Salesforce ให้ได้มากที่สุดนั้นมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ Salesforce จึงได้รวบรวมแนวทางที่เป็นประโยชน์มาให้คุณใช้ร่วมกับนวัตกรรมใหม่ของช่วงต้นปี 2023 นี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ การลงทุนใน Salesforce ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

1. สร้างแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

ด้วยการพัฒนาการบำรุงรักษาเชิงป้องกันของ Service Cloud ตอนนี้คุณสามารถสร้างแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันสำหรับเครื่องมือ โดยอ้างอิงจากข้อมูลการใช้งานจริง เพื่อให้ลูกค้าของคุณไม่เจอกับข้อผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว การบำรุงรักษาครั้งต่อไปจะกำหนดระยะเป็นประจำ หรือปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานครั้งล่าสุดโดยอัตโนมัติก็ได้ การปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการบำรุงรักษา เวลาซ่อมแซม และรวมเข้ากับกระบวนการจัดตารางเวลาได้ดีขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซื้ออะไหล่และค่าแรงที่ไม่จำเป็นลงอย่างมาก

2. เติมเต็มโปรไฟล์ด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์

CDP Connector สำหรับ Google Cloud Storage เป็นฟีเจอร์ใหม่ของ Marketing Cloud ที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษาโดยการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อที่สร้างไว้แล้วเพื่อนำข้อมูลจาก Google Cloud Storage มายังแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า คุณจึงใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ในการเติมเต็มโปรไฟล์ของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการจัดกลุ่มข้อมูลและปรับแต่งให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

3. ปรับปรุงการขายได้มากกว่าที่เคย

การปรับปรุงใหม่ของการค้าแบบ B2B และ B2B2C จะช่วยให้คุณ:

  1. เปิดใช้โมเดลการจัดการรายได้ที่เกิดประจำสำหรับ B2B และ B2B2C โดยใช้ระบบการจัดการการทำงานร่วมกันเบ็ดเสร็จแบบสมัครสมาชิก (Subscription Management’s pre-built integrations) ซึ่งเชื่อมคลาวด์รายได้กับคลาวด์พาณิชย์เข้าด้วยกัน
  2. พาผู้ซื้อไปหาสินค้าบนร้านค้าออนไลน์แบบ B2B ได้อย่างรวดเร็ว และยังเก็บข้อมูลเชิงลึกจากการค้นหาข้อมูลอย่างมีนัยยะของผู้ซื้อได้อีกด้วย

4. จัดการกับปัญหาคอขวด และเข้าร่วมทำงานได้จากทุกที่

ด้วยการปรับปรุงพัฒนาของ Flow Orchestration โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคู่มือการทำงานของ Flow Orchestration ผู้ใช้สามารถเข้ามาให้ความร่วมมือในการทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นใน Experience Cloud อีกทั้งแอดมินยังสามารถมอบอำนาจให้ผู้ใช้งานอื่นช่วยจัดการกับปัญหาคอขวด เร่งความเร็วในการทำงานด้วยการอนุมัติจากหัวหน้างานโดยตรง คุณจะอนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

5. ลดอัตราการการสูญเสียลูกค้าและเพิ่มความเป็นอัตโนมัติ

ระบบบริการตนเองในองค์กรสำหรับ Enterprise Self-Service for Communications Cloud จะช่วยตัดขั้นตอนการทำงานให้คุณ ประเมินจำนวนการทำธุรกรรม และยังเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย ระบบดังกล่าวจะย้าย เพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือ ลบบริการ (MACD) สำหรับการจัดการการสมัครสมาชิกจำนวนมากและหลายไซต์ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ต้นทุนการให้บริการและอัตราการสูญเสียลูกค้ามีปริมาณลดลง ขณะเดียวกันก็เพิ่มความเป็นอัตโนมัติและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าของคุณได้ด้วย

มาเริ่มลดต้นทุนและเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของคุณด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ กันเถอะ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาคลิก ที่นี่