การเปิดตัว Marketing Cloud 2023 ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา จะช่วยให้คุณเข้าใจและเปิดใช้งานข้อมูลของคุณได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังให้คุณสามารถปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับสิ่งที่คุณต้องการเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณได้อย่างแท้จริง

บางทีความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่นักการตลาดต้องเผชิญ คือ การตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจที่ตรงกับความต้องการลูกค้า รายงานพบว่า 56% ของลูกค้า คาดหวังข้อเสนอที่เป็นส่วนเฉพาะบุคคล ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 52% ในปี 2020 แต่ด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการเปิดตัว Marketing Cloud’23 จะเข้ามาช่วยให้คุณจะเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และเชื่อมต่อกับพวกเขาในรูปแบบที่โดนใจกว่าเดิม!

เราเข้าใจดีว่า First Party Data ของลูกค้าที่ถูกเก็บรวมรวมของบริษัทเป็นกุญแจสำคัญในการมอบความพึงพอใจโดยตรงให้แก่ลูกค้า สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบ และสามารถส่งข้อความที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมได้

อย่างไรก็ตาม การรวบรวมข้อมูล First Party Data เพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ คุณต้องเข้าใจ และจัดการข้อมูลของลูกค้าที่มีให้เหมาะสม จากนั้นจึงใช้ข้อมูลนั้นมาสร้างเส้นทางของผู้บริโภคให้ประสบความสำเร็จ

มาดู 5 วิธีที่ฟีเจอร์ต่างๆ ใน Summer '23 Marketing Cloud จะเข้ามาช่วยให้คุณไม่เพียงแต่เข้าใจข้อมูล First Party Data ของคุณได้ดีขึ้นยิ่งขึ้น แต่ยังใช้เพื่อปรับแต่งเนื้อหาของคุณให้เหมาะกับลูกค้าของคุณได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

สร้างกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชาญฉลาดด้วย AI

การปรับปรุงความพึงพอใจสำหรับลูกค้าของคุณสามารถเริ่มต้นด้วยการกำหนดผู้รับสารผ่านการแบ่งกลุ่มเป้าหมาย แต่ด้วยข้อมูลลูกค้าในแอปที่แตกต่างกันและในช่องทางที่แตกต่างกัน จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และถึงแม้จะมีข้อมูลลูกค้ารวมอยู่ในที่เดียว การเเบ่งกลุ่มให้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเข้าถึงลูกค้าก็ยังคงเป็นเรื่องยาก

ด้วย Einstein Studio ของ Data Cloud for Marketing: BYOM สำหรับ Amazon SageMaker คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายให้มีประาิทธิภาพยิ่งขึ้นได้โดยใช้โมเดล AI ของคุณเอง ขณะนี้นักการตลาดและทีมวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูล Customer 360 โดยเครื่องมือสร้างและฝึกฝนโมเดล AI จากนั้นปรับใช้ภายใน Data Cloud for Marketing เพื่อใช้ในการแบ่งภาคส่วนและการปรับเปลี่ยนเป็นเเบบเฉพาะบุคคล

Einstein Studio BYOM ช่วยให้ทีมการตลาดและทีมวิทยาการข้อมูลทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้การปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะของคุณง่ายขึ้นด้วยการปลดล็อกข้อมูลของลูกค้า โดยช่วยให้ไม่ต้องจัดการกับการวิเคราะห์ หรือกระบวนการต่าง ๆ ด้วยตนเองเลย

เพิ่มความเข้าใจประสิทธิภาพในระดับการเเบ่งส่วนทางการตลาด

สิ่งหนึ่งที่เราได้ยินจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง คือนักการตลาดต้องการเข้าใจว่าคนแต่ละประเภทตอบสนองต่อการตลาดของพวกเขาอย่างไร และเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จากอีกกลุ่มหนึ่งแล้วดีขึ้นหรือไม่ การทำความเข้าใจข้อมูลนี้มีความสำคัญ เนื่องจากช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าคุณควรใช้เวลาและเงินของคุณไปกับอะไร

เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพในระดับการเเบ่งส่วนทางการตลาด เราได้ทำการปรับปรุงตัวเชื่อมต่อของ Marketing Cloud Intelligence สำหรับ Data Cloud ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ก่อนการปรับปรุงเหล่านี้ ตัวเชื่อมต่อจะถูกจำกัดไว้เพียงชุดข้อมูลบางชุด (ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกคำนวณและข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดไว้ล่วงหน้า) ใน Data Cloud ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับนักการตลาดที่จะได้เห็นภาพรวมประสิทธิภาพของกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์

ขณะนี้ผู้ใช้งาน AI สามารถใช้แบบสอบถาม SQL ฟรีเพื่อนำเข้าข้อมูลลง Data Cloud ของพวกเขา รวมถึงฐาน Data Model Objects, Data Lake objects และข้อมูลเชิงลึกที่คำนวณแล้วผ่าน Total Connect หรือ Granular Data Center

สิ่งนี้ช่วยให้คุณระบุได้ว่ากลยุทธ์การตลาดของคุณทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการมีส่วนร่วมของลูกค้าในจุดใด รวมถึงช่องทางและกลยุทธ์ใดที่สามารถเพิ่มขนาดฐานกลุ่มลูกค้าของคุณได้อีกด้วย

นักการตลาดแบบ B2B: รวบรวมและใช้ข้อมูลของคุณเพื่อเส้นทางทางของลูกค้าที่ยิ่งดีขึ้น

เรารู้ว่านักการตลาด B2B มีแหล่งข้อมูลและแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามมากกว่าแต่ก่อน แต่การเพิ่มขึ้นก็สร้างความปวดหัวในการจัดการไม่ใช่น้อย หากข้อมูลลูกค้ากระจัดกระจายอยู่ตามแอปต่างๆ ทั้ง Webinar App, Text Markeing App หรือ แม้แต่ Account-Based Marketing App นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละแอปเข้าด้วยกัน และนั่นจึงเป็นปัญหาที่สามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้ในการปรับปรุงการเดินทางของลูกค้า

การมีส่วนร่วมของลูกค้า: การรวมระบบข้อมูล Data Cloud จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยช่วยให้คุณรักษาข้อมูลลูกค้าทั้งหมดของคุณในที่เดียว – รวมถึงข้อมูลที่เก็บไว้นอก Ecosystem ของ Salesforce จากนั้นคุณสามารถเปิดใช้งานเพื่อใช้ใน Marketing Cloud Account Engagement สิ่งนี้ช่วยให้นักการตลาด B2B สามารถสร้างฐานกลุ่มที่ดีขึ้นและขับเคลื่อนเนื้อหาในเว็บไซต์แบบ Dynamic Content ได้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการออกแบบการเดินทางก็จะถูกสร้างขึ้นแบบเฉพาะตัวสำหรับลูกค้าอย่างแท้จริง

เริ่มต้นใช้งานและเตรียมพร้อมที่จะปรับการส่งข้อความให้เป็นเฉพาะบุคคล

เมื่อคุณเข้าใจลูกค้าและสามารถเเบ่งกลุ่มเเบบชาญฉลาดได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ นำข้อมูลนี้ไปใช้เพื่อสร้างเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างแท้จริง แต่เรารู้ว่าการสร้างการเส้นทางตั้งแต่เริ่มต้นอาจเป็นเรื่องยาก เมื่อต้องเผชิญกับงบประมาณที่จำกัด จำนวนพนักงานที่ลดลง และทรัพยากรที่น้อยลง

ด้วยเเพ็กเกจโซลูชันการจัดการธุรกิจสำหรับการตลาดเเบบเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกค้าบนคลาวด์ คุณไม่ต้องใช้เวลามานั่งคาดเดาตั้งเเต่เริ่มต้นเลย เพราะ Salesfoce ได้รวมเเม่เเบบเทมเพลตแคมเปญต่างๆ สำหรับกรณีการใช้งานด้านการค้าปลีกและยานยนต์ พร้อมด้วยการใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะตามมาอีกในปีหน้านี้

แต่ละเเทมเพลตประกอบด้วยเส้นทางการเดินทาง Content, Assets, Automations และ Landing ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าและพร้อมใช้งาน ทำให้ง่ายต่อการปรับแต่งและส่งข้อความส่วนตัวเฉพาะบุคคลได้อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ คือ การจัดการข้อมูลที่มีทั่วทั้งหน่วยธุรกิจ ให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น และช่วยให้นักการตลาดมือใหม่เริ่มต้นได้ ด้วยเนื้อหาและแผนงานที่จัดทำขึ้นจากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม

ปรับแต่งการเดินทางของลูกค้าให้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป

เรารู้ว่าลูกค้ามากกว่าครึ่งคาดหวังให้การสื่อสารจากบริษัทต่างๆ เป็นแบบส่วนตัวสำหรับพวกเขา แต่นักการตลาดจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการเดินทางจะเป็นแบบเฉพาะตัวอย่างแท้จริง ในเมื่อพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปแบบเรียลไทม์

ด้วย Dynamic Journey Remapping ของ Marketing Cloud Personalization คุณสามารถอัปเดตการเดินทางอัตโนมัติสำหรับลูกค้าระหว่างทางได้แล้ว ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าโต้ตอบกับเว็บไซต์ของบริษัทหรือกับช่องทางการตลาดอื่นๆ คุณสามารถใช้ระบบอัตโนมัติเพื่ออัปเดตการเดินทางได้ทันที และส่งลูกค้าไปในเส้นทางที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการโต้ตอบเหล่านั้น เฉพาะลูกค้า Salesforce ที่มีทั้ง Personalization และ Marketing Cloud Engagement’s Journey Builder

ต้องการข้อมูลความสามารถการใช้งาน Salesforce เพิ่มเติมได้ที่ คลิก