ทำไมอุตสาหกรรมประกันภัยต้องเร่งทรานส์ฟอร์ม

อุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากแรงกดดันด้านการแข่งขันและความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์ที่ รวดเร็ว โปร่งใส เฉพาะบุคคล และเชื่อมต่อได้ทุกช่องทาง ขณะที่องค์กรประกันภัยต้องจัดการกับระบบเดิมที่ซับซ้อน และขั้นตอนที่ยังต้องพึ่งพาการทำงานด้วยมือ

มีงานวิจัยชี้ว่าในประเทศไทยมีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับประกันภัย การกำหนดราคา การประเมินความเสี่ยง และการจัดการเคลมมากขึ้น การนำ AI มาใช้ยังช่วยตรวจจับการฉ้อโกง วิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และออกแบบกรมธรรม์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้ความพึงพอใจและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นพร้อมกัน

ตลาด AI ในธุรกิจประกันภัยของไทยคาดว่าจะเติบโตจาก 4.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เป็น 14.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2031 หรือเติบโตราว 23.6% ต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการระบบอัตโนมัติและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากแนวโน้มของตลาดแล้ว การสำรวจระดับโลกพบว่าบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่สามารถประหยัดต้นทุนได้ถึง 10% จากการนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ 47% ของบริษัทเห็นรายได้เพิ่มขึ้นจากการมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ไม่เพียงลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ด้วย

การทรานส์ฟอร์มธุรกิจประกันภัยในวันนี้จึงไม่ใช่ “ตัวเลือก” แต่เป็น “ความจำเป็น” เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน Beryl 8 Plus นำเสนอแนวทางใหม่ของ Insurance Service Offering ที่ผสานเทคโนโลยี AI, Automation และ Cloud Platform เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจประกันให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์

Insurance Support Platform: แพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจรเพื่อยกระดับประสบการณ์ประกันภัยยุคใหม่

แพลตฟอร์มสนับสนุนธุรกิจประกันภัยของเราทำหน้าที่เป็น “กระดูกสันหลังดิจิทัล” ที่เชื่อมโยงทุกขั้นตอนของการให้บริการ ครอบคลุมตั้งแต่การขายกรมธรรม์ การเรียกร้องค่าสินไหม ไปจนถึงการบริการหลังการขาย ทำให้การทำงานขององค์กรเป็นหนึ่งเดียว

  • 360° Customer View

    รวมข้อมูลจากทุกช่องทาง (เว็บไซต์ โทรศัพท์ แอป และสาขา) มาอยู่ในโปรไฟล์เดียว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดูประวัติกรมธรรม์ การเคลม ข้อมูลที่ผ่านมา ได้แบบครบถ้วน ช่วยเพิ่มความเร็ว ความแม่นยำ และความเข้าใจเชิงลึกในการให้บริการลูกค้า

  • Automated Workflows

    ลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อนด้วยระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ตั้งแต่การออกกรมธรรม์จนถึงการประมวลผลเคลม องค์กรสามารถลดเวลาการทำงานได้สูงสุดถึง 70% พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม เพิ่มความแม่นยำและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเห็นได้ชัด

  • Real-Time Analytics

    การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่อัปเดตอยู่เสมอ ผ่านแดชบอร์ดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับแต่ละบทบาทในองค์กร

  • Omnichannel Excellence

    มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปมือถือ หรือศูนย์บริการ ลูกค้าสามารถเริ่มต้นการติดต่อบนช่องทางหนึ่งและต่อเนื่องอีกช่องทางได้อย่างไร้รอยต่อ

AI Assistant for Sales Agents: ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เพิ่มพลังการขายและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า

เสริมพลังให้กับตัวแทนด้วยระบบสนับสนุนอัจฉริยะ AI ที่ช่วย ให้ตัวแทนขายสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าและเสนอคำแนะนำแบบเรียลไทม์ ช่วยลดเวลาค้นหาข้อมูลและเพิ่มการปิดการขาย และการสร้างข้อความอัตโนมัติที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

  • Personalized Messaging

    สร้างอีเมล ข้อความ หรือข้อเสนอที่ปรับให้เข้ากับลูกค้าแต่ละคน โดยอิงจากโปรไฟล์ และเหตุการณ์สำคัญของลูกค้าโดยอัตโนมัติ

  • Smart Recommendations

    AI จะวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อค้นหาโอกาสในการขายหรือเสนอผลิตภัณฑ์ (Cross-sell / Upsell) ที่เหมาะสมกับช่วงชีวิตของลูกค้า

  • Dynamic Sales Scripts

    สคริปต์การขายที่ปรับเปลี่ยนแบบเรียลไทม์ ตามคำตอบและอารมณ์ของลูกค้า ช่วยให้ตัวแทนคุยได้อย่างมั่นใจและและเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้คือ อัตราการปิดการขายสูงขึ้น ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพของตัวแทนดีขึ้นอย่างชัดเจน

AI Automation for Insurance Operations: ยกระดับกระบวนการประกันภัยด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ระบบอัตโนมัติ AI ช่วยจัดการกระบวนการที่ซับซ้อนในธุรกิจประกันภัยเร็วขึ้น แม่นยำ ปลดล็อกเวลาให้ทีมของคุณได้โฟกัสกับงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด

  • Policy Comparison

    วิเคราะห์และเปรียบเทียบกรมธรรม์หลายฉบับโดยอัตโนมัติ ทั้งราคา เงื่อนไข และความคุ้มครอง แสดงคำแนะนำที่เหมาะสมให้ลูกค้าได้ภายในไม่กี่วินาที เพื่อให้ลูกค้าเห็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว

  • Car Inspection

    ใช้เทคโนโลยี Computer Vision ประเมินความเสียหายของรถยนต์จากภาพถ่าย คำนวณค่าซ่อมและดำเนินการเคลมได้เร็วขึ้นจาก หลายวันเหลือเพียงไม่กี่นาที

  • Document Processing

    ระบบดึงข้อมูลจากแบบฟอร์ม บัตรประชาชน และเอกสารประกอบโดยอัตโนมัติ ลดงานกรอกข้อมูลด้วยมือและลดข้อผิดพลาดได้ถึง 95%

ผลลัพธ์จากการนำ AI อัตโนมัติไปใช้

องค์กรที่นำ AI Automation ไปใช้รายงานผลลัพธ์ชัดเจนทั้งด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์ลูกค้า และยังเป็นรากฐานสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต

  • ลดเวลาในการประมวลผลได้ถึง 70% การสมัครและการเคลมทำได้เร็วขึ้นอย่างมาก
  • ความแม่นยำเพิ่มขึ้น 85% ข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลลดลง
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
  • ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 92% จากตอบกลับได้เร็วและมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น

OpenAPI for Insurance: สร้าง Ecosystem ประกันภัยที่เชื่อมต่อได้ทุกบริการ

แพลตฟอร์ม OpenAPI ของ BE8 ช่วยให้องค์กรเชื่อมต่อกับพันธมิตรและบริการภายนอก รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ได้ง่ายและราบรื่น สร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เปิดกว้างและพร้อมเติบโต

ในยุคที่บริษัทประกันต้องทำงานแบบแพลตฟอร์มไม่ใช่ไซโล โครงสร้าง API-first ทำให้เชื่อมต่อกับ insurtech, ผู้ให้ข้อมูล, ช่องทางจัดจำหน่าย และระบบดิจิทัลอื่น ๆ ได้ง่ายและปลอดภัย

Key Features

  1. Comprehensive Documentation

    มีคู่มือและตัวอย่างโค้ด พร้อมพื้นที่ทดสอบแบบ Interactive สำหรับนักพัฒนาครบถ้วน

  2. Enterprise Security

    รองรับมาตรฐาน OAuth 2.0, การเข้ารหัส, การจำกัดอัตราการใช้งาน และระบบบันทึกการเข้าถึง

  3. Flexible Integration

    API ครอบคลุมฟังก์ชันหลัก เช่น การจัดการกรมธรรม์ การเคลม การชำระเงิน และการวิเคราะห์ข้อมูล

  4. Real-Time Monitoring

    ระบบตรวจสอบการทำงานแบบเรียลไทม์ ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพและการใช้งาน API ได้ทันที เพื่อให้มั่นใจในความต่อเนื่องของบริการ

Core Insurance Transformation: พลิกโฉมระบบหลักเพื่อรองรับนวัตกรรมและการเติบโตในอนาคต

ระบบประกันภัยหลายแห่งยังใช้ซอฟต์แวร์รุ่นเก่าที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรม การปรับปรุงระบบหลักของธุรกิจประกัน (Core Systems) ถือเป็นกุญแจสำคัญของการเติบโตในยุคดิจิทัล

Transformation Roadmap

  1. Assessment & Planning

    การประเมินและวางแผน วิเคราะห์ระบบเดิมเพื่อเพื่อค้นหา Technical Debt และระบุปัญหาและโอกาสในการปรับปรุง

  2. Platform Migration

    การย้ายระบบอย่างเป็นขั้นตอนสู่สถาปัตยกรรม Cloud-native และ Microservices โดยไม่กระทบต่อการดำเนินงาน

  3. Integration & Testing

    เชื่อมต่อระบบและทดสอบใหม่เข้ากับระบบเดิม เพื่อรักษาความถูกต้องของข้อมูลและความต่อเนื่องของธุรกิจ

  4. Optimization & Scale

    ปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายขีดความสามารถให้รองรับการเติบโตในอนาคต

เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมประกันภัยในวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสนับสนุนการทำงานอีกต่อไป แต่ได้ก้าวขึ้นมาเป็น “แกนกลางของกลยุทธ์องค์กร” ที่ช่วยให้บริษัทประกันสามารถแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมั่นคงยิ่งกว่าเดิม การนำ AI คลาวด์ และระบบอัตโนมัติมาใช้ ไม่เพียงช่วยลดเวลาและต้นทุน แต่ยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ในการบริหารจัดการข้อมูล เชื่อมต่อทีมงาน และสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือความคาดหวัง

ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมประกันภัยไทยกำลังเร่งปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล องค์กรที่ตัดสินใจนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบตั้งแต่วันนี้ จะเป็นองค์กรที่ “พร้อมกว่า” ทั้งในด้านความคล่องตัว ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความสามารถในการแข่งขัน

เมื่อพลังของเทคโนโลยีถูกใช้อย่างถูกวิธี มันจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืนและแตกต่างอย่างมีคุณค่าในสายตาลูกค้า และนี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงนั้น

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจประกันภัย สามารถติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้ ที่นี่