ในยุคสมัยนี้ทุกคนบนโลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และยังมีการปรับตัวเพื่อเรียนรู้ในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน แทบทุกแห่งได้มีการเปลี่ยนผ่านเป็นระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับองค์กร ซึ่ง Digital Transformation เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวความคิด และนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ

บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation แบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ซึ่งบริหารงานโดย “อภิเษก เทวินทรภักติ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เล่าถึงธุรกิจของ BE8 ว่า บริษัทนำ Innovation ต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าให้ธุรกิจ ซึ่งให้บริการตั้งแต่คำปรึกษาด้าน Digital Strategy การวางแผนพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การเลือกใช้ซอฟต์แวร์และพัฒนาระบบให้สำเร็จตามแผน รวมทั้งเป็นผู้ให้บริการจัดเก็บบริหารข้อมูลขนาดใหญ่และนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

** วางกลยุทธ์ครบวงจร

“เราทำครบวงจร ทั้งวางกลยุทธ์ดิจิทัล พัฒนาระบบตาม CRM งานขาย คอลเซ็นเตอร์ เชื่อมต่อระบบให้ลูกค้า ซับพอร์ตลูกค้า ด้วยดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นระดับโลก”

ปัจจุบันบริษัทมีรายได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ งานที่เป็นโปรเจ็กต์ ซึ่งจะพัฒนาระบบต่างๆ ให้กับลูกค้า และงานที่เป็นรายได้ประจำ

ทั้งนี้บริษัทยังเป็นตัวแทนขายสินค้าให้กับพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลก อย่าง Salesforce แพลตฟอร์มบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าจาก Salesforce ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของโลก, ซอฟต์แวร์ Google Workspace จาก Google, Tableau, Snowflake, MuleSoft

“เราไม่ได้แค่เป็นพาร์ตเนอร์กับ Salesforce แต่เค้ายังได้เข้ามาลงทุนในบริษัทของเราด้วย ซึ่งเราเป็นพาร์ตเนอร์กันเมื่อ 12 ปีก่อน ทำโปรเจ็กต์กันมานานทำให้ตลาด Salesforce เติบโตมากขึ้น ให้บริการลูกค้าองค์กรมากกว่า 100 ราย จากหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ กว่า 250 โครงการในไทยและต่างประเทศ”

**ชูจุดแข็งธุรกิจ

ส่วนจุดแข็งของบริษัทนอกเหนือจากการมีพันธมิตรที่เป็นเทคโนโลยีระดับโลก และเข้ามาลงทุนใน BE8 แล้ว Salesforce ยังได้ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีอีก 400 บริษัททั่วโลก ซึ่ง BE8 เป็นเจ้าเดียวในอาเซียน จึงมองว่าตรงนี้ทำให้บริษัทมีช่องทางเข้าถึง เทคโนโลยี และ Innovation ใหม่ๆให้กับลูกค้าได้ มีการผสมผสานประสบการณ์กับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน และยังถือเป็นโอกาสในการเข้าไปร่วมกับพันธมิตรของSalesforceได้

ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ากระจายอยู่ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มการเงิน(Financial Service) เป็นกลุ่มหลัก และที่เหลืออยู่ในกลุ่มการผลิต ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โลจิสติกส์ และอีคอมเมิร์ส

สำหรับโอกาสเติบโตของ BE8 “อภิเษก” กล่าวว่า มองการเติบโตในระดับภูมิภาคอาเซียน BE8 มีประสบการณ์ทำงานในมากว่า 11 ประเทศทั่วโลก ซึ่งบริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็น Salesforce Reseller Partner รายแรกของประเทศเวียดนาม และจัดตั้งสำนักงานที่เวียดนามในปี 2562 ซึ่งเวียดนาม มีสัดส่วนการลงทุนด้าน Digital Transformation ต่อมูลค่าจีดีพี สูงกว่าไทยเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับขนาดของเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงมองว่าโอกาสการเติบโตยังมีสูง

**พัฒนาโปรดักต์เอง

“ปัจจุบันเราได้มีการพัฒนาโปรดักต์ของตัวเอง เพื่อต่อยอดจาก Salesforce ซึ่งเรามีลูกค้าเป็นบริษัทเอสเอ็มอีหลายที่ เราจึงต้องการพัฒนาโปรดักส์แบบ “Out of the Box” หรือสำเร็จรูปมาใช้ทำให้โครงการสำเร็จได้รวดเร็วมากขึ้นในราคาที่ถูกลง จากประสบการณ์ทำงานกับลูกค้ามากว่า 150 ราย ทำให้เรามีความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า เราจึงอยากพัฒนาโปรดักต์เพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าให้ได้ดียิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม การเกิดวิฤตโควิด-19 นั้น จะเห็นได้ว่าทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ จึงมีการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่อง Digital Transformation ซึ่งจะต้องทำมากขึ้น และมีเป้าหมายหลักอยู่ 4 เรื่อง ได้แก่ การพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า(Customer Experience), การทำกระบวนการให้ดีขึ้น, การนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และการสร้างบริการใหม่ หรือโปรดักส์ใหม่ ซึ่งบริษัทก็จะทำงานกับลูกค้าใน 3 ข้อแรกเป็นหลัก

โดยอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ช และโลจิสติกส์ มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้หันมาทำ Digital Transformation กันมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากลุ่มลูกค้าโลจิสติกส์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มสายการบินและท่องเที่ยวได้รับผลกระทบค่อนข้างหนัก

** ธุรกิจมีโอกาสโตสูง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุผลที่นักลงทุนควรที่จะลงทุน BE8 นั้น เนื่องจากเราอยู่ในธุรกิจ Digital Transformation มานานมีอัตราการเติบโตสูง มีความต้องการในตลาดมาก และยังทำโปรเจ็กต์หลากหลาย มีโอกาสขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ จากการที่มีการเปิดออฟฟิศอยู่ที่ประเทศเวียดนาม และยังเป็นตัวแทนของ Salesforce เจ้าแรกและเจ้าเดียวในเวียดนาม

นอกจากนี้ BE8 ยังเป็นบริษัทเดียวที่ Salesforce ร่วมลงทุน ทำให้บริษัทได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกว่า 400 บริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่เป็นเครือข่ายของบริษัทที่อยู่ในเครือของ Salesforce ถือว่าเป็นการเปิดประตู ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงและนำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ให้กับลูกค้าได้ และยังได้การสนับสนุนเพื่อขยายไปในตลาดต่างประเทศอีกด้วย

ขณะเดียวกันมีหลากหลายธุรกิจที่ต้องเปลี่ยนผ่านธุรกิจด้วยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เช่น ธนาคารขนาดใหญ่ที่ต้องก้าวไปสู่ Fin Tech ถือว่าเป็นโอกาสของบริษัท ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ทำให้มีดีมานด์เพิ่มขึ้น

** แบงก์ใหญ่เปลี่ยน

“แบงก์ใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงถือเป็นการเปิดโลกให้กับทุกบริษัทต้องเข้าไปสู่เทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งเรามองในอนาคตบริษัทเทคโนโลยีมีโอกาสที่จะไปร่วมมือกับแบงก์ ประกัน อสังหาฯ เพิ่มมากขึ้น เราเห็นโอกาสเพิ่มขึ้นตรงนี้ ถือว่าจะเปิดโลกใหม่มากขึ้น”

สำหรับเป้าหมายในการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือธุรกิจอื่นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ เพื่อการให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้น และภูมิภาคอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโต และบริษัทเห็นโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากที่ผ่านมามีประสบการณ์ทำโปรเจ็กต์มามากในด้านเทคโนโลยีในหลายประเทศ ซึ่งภาคธุรกิจทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบดิจิทัลดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นการก้าวสู่ผู้นำ Digital Transformation ในภูมิภาคอาซียนของ BE8 จึงเป็นไปได้ไม่ยาก