ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ กระบวนการ หรือระบบ APIs หน้าต่างโปรแกรมก็เปรียบดังผืนผ้าใบสำหรับสร้างแอพฯ APIs เข้ามาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้องค์กรบรรลุทั้งเป้าหมายธุรกิจในทางเทคนิค และวัตถุประสงค์ขององค์กร

การทำให้กระบวนการสื่อสาร และการแจ้งเตือน API เป็นรูปแบบอัตโนมัติ เพื่อแจ้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับ API ใหม่ที่เกิดขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆนี้ นำไปมุ่งเน้นการสร้างกระบวนการใหม่ หรือสร้างกระแสรายได้ใหม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ระบบอัตโนมัติยังช่วยจำกัดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ ทีมจึงจดจ่อกับการทำกิจกรรมอื่นๆได้

ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API

จาก รายงานของ MuleSoft’s Connectivity Benchmark พบว่า 90% ขององค์กรมีการบูรณาการและกลยุทธ์ API ที่ชัดเจน และกว่าหนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ขณะนี้ผู้นำองค์กรเรียกร้องให้ทุกโครงการปฏิบัติตามกลยุทธ์การบูรณาการ API ทั่วทั้งบริษัท ด้วยมุมมองดังกล่าว จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการการเติบโต และการสื่อสารในระบบนิเวศของ API ได้อย่างไร? ทางออกจึงมีอยู่สองวิธี วิธีแรก คือ สามารถใช้ Mulesoft Universal API Manager เป็นตัวกลางสำคัญในการจัดการและควบคุม API ทุกชนิด หรือ วิธีที่สองซึ่งเป็นประเด็นหลักของบทความนี้ก็คือ วิธีสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API อย่างมีประสิทธิภาพต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบนิเวศของ API

4 ขั้นตอนในการสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API

API เปรียบเสมือนผืนผ้าใบที่ใช้พัฒนาแอพพลิเคชั่น เมื่อมีนวัตกรรมและการพัฒนาเกิดขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ API ใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้น ทำให้หายไป หรือมีการเปลี่ยนแปลง ตามไปด้วย เพื่อที่จะสื่อสารการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ต้องรู้จัก API audience
  2. สร้างช่องทางการสื่อสาร
  3. ระบุชนิดการเปลี่ยนแปลงของ API
  4. กำหนดข้อความแจ้งเตือน

1. รู้จัก API audience ของคุณ

กุญแจสำคัญในการสื่อสารการเปลี่ยนแปลง API คือ ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณ audience หมายถึง “บุคคล” ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง หรือ API ใหม่ ๆ ซึ่งอาจรวมได้ตั้งแต่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในองค์กรอย่าง นักพัฒนา ผู้จัดการ ผู้บริหาร ตลอดจน ผู้ใช้งาน API ผู้ใช้งาน API เป็นได้ทั้งพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือผู้คิดค้นแพลตฟอร์ม พาร์ทเนอร์สามารถบูรณาการแอพพลิเคชั่นผ่านทางแพลตฟอร์มขององค์กร ส่วนผู้คิดค้นจะใช้ APIs ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่แปลกใหม่เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้

การที่รู้จักผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมาย API จะสร้างพื้นฐานให้กับการสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API ขึ้น เพราะผู้ใช้งานคือประเด็นหลักของการสื่อสารที่เราจะต้องคอยส่งแจ้งเตือนหากเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ขึ้นกับ API หรือหากมีการสร้าง API ใหม่ขึ้นมา

2. สร้างช่องทางการสื่อสารของคุณ

ช่องทางการสื่อสารแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของ API หรือมีการเพิ่มเติมใด ๆมากขึ้น ช่องทางการสื่อสารจะส่งต่อข้อมูล API ที่เหมาะกับจุดประสงค์ให้ (เช่น ชื่อ คำอธิบาย สถานที่ เป็นต้น) และยังให้การสนับสนุนสำหรับการสื่อสารทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ การแจ้งเตือนเชิงรุกได้แก่ เมื่อการเปลี่ยนแปลงของ API ส่งผลกระทบกับแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ ผู้ใช้ API จำเป็นต้องเข้ามาจัดการทันทีเพื่อไม่ให้แอพพลิเคชั่นของเขาหยุดทำงาน การแจ้งเตือนเชิงรับนั้นไม่ต้องการการจัดการทันที แต่เป็นไปในเชิงการให้ข้อมูลมากกว่า

วิธีบรรลุเป้าหมายช่องทางการสื่อสารที่ควรใช้นั้นมีอยู่สามวิธีดังนี้ 1. นำเอาแพลตฟอร์มบูรณาการมาปรับใช้ 2. ใช้ Portal Software 3. เขียนโค้ด

ขั้นตอนทั้ง 3 นี้ทำให้ audience สามารถใช้งานการแจ้งเตือน ส่งข้อความ และเข้าถึงเอกสาร API ได้

แพลตฟอร์มบูรณาการช่วยให้ผู้ใช้งานมีการติดต่อสื่อสารกัน (นักพัฒนา ผู้ใช้งาน API และ ผู้จัดการ) และยังทำให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วย Slack เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เนื่องจาก Slack สามารถอำนวยความสะดวกในการสื่อสารโต้ตอบกับผู้ชมได้แบบเรียลไทม์ พร้อมปลูกฝังรูปแบบอัตโนมัติลงไปในเวิร์คโฟลว์

Portal Software ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับให้ audience มารวมกันเป็นคอมมูนิตี้ เพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ในกรณีจะหมายถึงรายละเอียดการเปลี่ยนแปลง API ใหม่ Anypoit Community Manager มอบความสามารถข้างต้นเพื่อใช้ทำหน้าที่เป็นประตูสำหรับสมาชิกใน API คอมมูนิตี้ อีกทั้งยังใช้คำนวณจัดการเอกสาร API ได้แบบอัตโนมัติผ่านทาง Anypoint Exchange

ท้ายที่สุด โค้ดในแอพพลิเคชั่นจะช่วยในการสื่อสารเปลี่ยนแปลง API นักพัฒนาสามารถเขียนหัวข้อควรระวังไว้บน APIs หรือ อาจโทรเรียกบริการทั่วไปเพื่อมาตรวจสอบสเตตัส API ก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถส่งอีเมลแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของ API ได้ด้วย สมาชิก audience จะได้รับข้อมูลการเปลี่ยนแปลง หรือการเลิกใช้งาน API การใช้งานรูปแบบดังกล่าวในระบบอัตโนมัติช่วยพัฒนาการสื่อสารแล้วเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้รับชม

3. ระบุชนิดการเปลี่ยนแปลงของ API

มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ API ทั้งความสามารถทางธุรกิจใหม่ การปรับเปลี่ยนกระบวนการการทำงาน หรือการพัฒนาโครงสร้างการออกแบบ ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ API ทั้งสิ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถจำแนกออกเป็นประเภทรุนแรง และ ประเภทไม่รุนแรง

  • ประเภทรุนแรง คือ การปรับแต่ง API ที่ทำให้แอพพลิเคชั่นล่ม ซึ่งจะสร้างหายนะต่อสภาพแวดล้อมได้ ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง API ที่รุนแรงได้แก่ การเพิ่มคิวรี่พารามิเตอร์ที่ต้องการ การเปลี่ยนข้อมูลฟอร์แมต หรือการตั้งชื่อใหม่ให้แหล่งข้อมูล
  • ประเภทไม่รุนแรง คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ API และเป็นไปในเชิงการให้ข้อมูลมากกว่า ได้แก่ การเพิ่มระบบปฏิบัติการใหม่ การเพิ่มทางเลือกของคุณลักษณะข้อมูล หรือ คิวรี่พารามิเตอร์ทางเลือก การนำเสนอการเปลี่ยนแปลงของ API ให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นได้ทันที เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สามารถตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ได้ ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อต้องปรับใช้ API ลง แถมยังช่วยปลูกฝังความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้งานอีกด้วย เนื่องจากผู้ใช้งานรับรู้ได้ว่ามีกระบวนการคอยแจ้งเตือนเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะกับแอพพลิเคชั่นของพวกเขา

4. กำหนดข้อความแจ้งเตือน

ทำให้ข้อความแจ้งเตือนของ API เข้าใจได้ง่ายต่อ audience ด้วยการแบ่งสัดส่วนผู้ใช้งานและระบุเนื้อหาที่ต้องการใช้ โดยที่เนื้อหาจะต้องมีความสำคัญ ตรงประเด็น และเป็นประโยชน์ พบปะกับผู้ใช้งานหลายประเภทแล้วระบุความต้องการเฉพาะบุคคลที่สำคัญออกมาให้ได้ จำเอาไว้ว่า การส่งข้อความที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งจะช่วยไม่ให้มีข้อมูลมากจนเกินไปจนสร้างความสับสน audience ของคุณจะรับรู้ได้ว่าข้อความที่ส่งไปนั้นตรงประเด็นที่เขาต้องการ รวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน

ตอนนี้คงเห็นภาพรวมของทั้ง 4 ขั้นตอนโดยละเอียดในการสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API แล้ว เรามาทบทวนเทคโนโลยีที่ต้องใช้กันว่ามีอะไรบ้าง :

  • Slack: ใช้ Slack ในการให้ความร่วมมือ การสื่อสาร และทำให้เวิร์คโฟลว์ของผู้ชมเป็นแบบอัตโนมัติ
  • Mulesoft Anypoint Community Manager: สิ่งนี้ควรเป็นประตูเปิดทางให้กับองค์กรของคุณสามารถสร้างคอมมูนิตี้รอบๆ APIs ขึ้น และนำเอกสาร API ไปนำเสนอต่อ audience ของคุณได้
  • Mulesoft Anypoint Exchange: Anypoint Exchange ประกอบด้วยแคตตาล็อกที่ถูกดูแลของ API และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ API ข้อมูลจาก Exchange นั้น ถูกคำนวณจัดการโดยอัตโนมัติ แล้วส่งไปยัง Anypoint Community Manager ช่วยฝังข้อความเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน APIs ให้แก่ audience ของคุณ

การรวมเข้าด้วยกันและการทำให้เป็นแบบอัตโนมัติของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นำมาซึ่งทางออกที่ยืดหยุ่นในการสื่อสารการเปลี่ยนแปลงของ API นำคุณสู่เส้นทางการสร้างความไว้วางใจแก่ audience ของคุณ และยังลดความเสี่ยงในระบบนิเวศของ API ลงได้ด้วย สนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ Mulesoft เพิ่มเติมติดต่อที่นี่