หากจะกล่าวถึงระบบ CRM ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง Salesforce แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ให้การช่วยเหลือในการดูแลระบบลูกค้าสัมพันธ์ โดยทุกฝ่ายในบริษัทสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี แต่การที่จะดึงประโยชน์ของ Salesforce ออกมาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น คุณจะต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงระบบการทำงานของผลิตภัณฑ์ Salesforce อย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อที่แต่ละฝ่ายในบริษัทสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการทำงานในแผนกของตัวเองได้ สินค้าและผลิตภัณฑ์หลักของ Salesforce แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักด้วยกัน ได้แก่

  1. Sales Cloud เพื่อการขายที่รวดเร็วและแม่นยำ

Salesforce มีระบบการทำงานบนคลาวด์ออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Sales Cloud ซึ่งช่วยให้แผนกพนักงานฝ่ายขายของบริษัทสามารถติดตามการซื้อขายสินค้าบริการของบริษัทได้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าลูกค้าจะเข้ามาซื้อสินค้าบริการผ่านช่องทางไหนก็ตาม เชื่อมต่อทั้งระบบการขายผ่านอีคอมเมิร์ซ และผ่านทางหน้าร้านทุกสาขาไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังช่วยให้ทีมฝ่ายขายติดตามความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์และสินค้าบริการได้ในทุกช่องทางออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และคำติชมผ่านหน้าร้าน การที่พนักงานฝ่ายขายของบริษัท สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงฐานข้อมูลสำคัญเหล่านี้ สามารถช่วยให้พนักงานขายเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า สามารถพูดโน้มน้าวและปิดการขายลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบของ Sales Cloud ยังใช้งานระบบ AI ที่มีการพัฒนาความคิดและเรียนรู้จากฐานข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้ทีมงานฝ่ายขายสามารถรับทราบได้ว่า อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของคุณ

  1. Service Cloud เพื่อการบริการที่ครอบคลุมทุกช่องทาง

ระบบ Service Cloud ของ Salesforce จะเหมาะสำหรับทีม Customer Service ที่ต้องมีหน้าที่คอยตอบคำถามและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่ง Salesforce ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการบริการลูกค้า จึงได้มีการสร้างระบบ Service Cloud ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ทีม Customer Service สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีระบบ AI ช่วยตอบคำถามอัตโนมัติ และลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบของคำถามที่ตนเองต้องการได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสื่อสารกับพนักงาน Customer Service ก็ได้ และด้วยประโยชน์ของการจัดเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ในออนไลน์ของ Salesforce จะช่วยให้พนักงานบริการ สามารถเรียกดูข้อมูลลูกค้าแต่ละคน คาดการณ์ความต้องการของลูกค้า และนำมาปรับให้เข้ากับการบริการของแต่ละคนได้

  1. Marketing Cloud เพื่อการตลาดที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

Marketing Cloud ของ Salesforce เป็นผลิตภัณฑ์ที่ฝ่ายการตลาดของทุกบริษัทควรมี เพราะจะช่วยในการทำการตลาดทั้งแบบ Push และแบบ Pull Marketing ในทุกช่องทางเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดผ่านอีเมล โซเชียลมีเดีย และระบบข้อความ SMS และ MMS ทีมการตลาดสามารถสร้างโปรโมชั่นแคมเปญ และส่งข้อความเพื่อนำเสนอสร้างความตระหนักรู้ให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งระบบการจัดเก็บข้อมูลสถิติการซื้อสินค้าบริการของลูกค้า ยังช่วยให้ทีมการตลาดของบริษัท สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนผลิตโปรโมชั่นให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย ทำให้แผนการตลาดของบริษัทมีประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยส่งเสริมการสร้างระบบ Customer Journey ได้อย่างครบวงจร ลูกค้าเห็นโปรโมชั่น สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล และจบด้วยการซื้อสินค้าบริการของคุณได้ทันที

และนี่ก็คือ 3 ผลิตภัณฑ์ซอลฟ์แวร์หลักของ Salesforce ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน เชื่อว่าใครหลายคนคงมองเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของ Salesforce กันมากยิ่งขึ้นแล้ว Salesforce ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ซอลฟ์แวร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของระบบ CRM แต่เป็นซอลฟ์แวร์ที่พร้อมช่วยเหลือปรับเปลี่ยน และสร้างสรรกลยุทธ์แผนการดำเนินธุรกิจภาพรวมใหญ่ทั้งหมดให้กับบริษัทนั่นเอง หากบริษัทไหนนำซอลฟ์แวร์อัจฉริยะเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราเชื่อว่าบริษัทเหล่านั้นจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและพัฒนาบริษัทให้เติบโตได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น